วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

ความคิดเห็นจากผู้ที่จบคณะ วิศวกรคอมพิวเตอร์ และ ความหมายต่างๆ


เรียนยากไหม

ถ้าถามผมผมว่า

ความรู้คอม สมัยนี้ใครๆอ่านหนังสือเอาก็ทำได้หมดแหละครับ
ซ่อมคอม ประกอบคอม แก้ไวรัส ลงซอฟแวร์ ลงวินโดว์ ทำเว็บ ทำกราฟฟิค ฯลฯ
ใครๆก้อทำงานด้านคอมได้ทั้งนั้น

แต่
วิศวะคอม ไม่ได้เรียนแค่นั้นหรอกนะครับ ไอที่คนส่วนใหญ่ทำได้ วิศวะคอมก็ทำได้เป็นพื้นฐาน
วิศวะคอมเรียนลึกกว่านั้นมาก และต้องทำงานที่ลึกกว่านั้น ไม่ใช่แค่งานทำเว็บ ซ่อมคอม เปิดร้านเนตเกมส์
อันนั้นทำเป็นรายได้ประกอบ หรือรายได้เสริมก็ได้

งานของวิศวะคอมจะเป็นงานที่ยากกว่า(แน่นอนว่าเรียนยากด้วย) เงินเดือนเยอะกว่า และสามารถต่อยอดได้เยอะ
ไม่ว่าจะเป็นงานการบิน อวกาศ สมองกล ฯลฯ
วินโดวที่คนไทยใช้กันถูกๆนั่นแหละ วิศวคอมก็เป็นคนแฮกมาให้ใช้ จะได้ไม่ต้องซื้อกันแพงๆ แถมแฮกแล้วเค้าจับไม่ได้ด้วยแฮะ
เพราะฉะนั้น วิศวะคอม จะเป็นคนที่มีความรู้เรื่อง โปรแกรม ซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ เนตเวิร์ก ลึกมาก
เรียนยากและเรียนลึกเมื่อเปรียบเทียบกับคณะอื่นๆที่เรียนคอมเหมือนกัน

วิศกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬา

ย้ายสายการทำงานมากมั้ย?

ในช่วงปีแรกยังน้อย แต่เมื่อผ่านไปซักสามปี ทำให้ตัวนิสิตรู้ว่า skill ที่เค้ามีมันมีอายุใช้งานอยู่ เพราะการทำงานสายนี้มักมีอะไรที่อัพเดตที่รวดเร็วมาก ทำให้ต้องเหนื่อยกับการที่ต้องไปตามศึกษาตัวใหม่ๆ สำหรับคนที่อยู่ในองค์กรที่ไม่ค่อยได้เปลี่ยนแปลงคือทำงานประจำอยู่ ซักพักก็มาเรียนบริหาร คนที่อยู่ Software House ก็ออกมาเปิดบริษัทเอง บางคนใช้ skill การเขียนโปรแกรมไปทำงานทางด้าน Finance แต่ก็ไม่เยอะมาก

ทุนของภาควิชา


คล้ายๆ ในภาคอื่น ไม่ค่อยต่างกัน สำหรับนิสิตปริญญาตรีที่เรียนต่อโทเลย ทางภาควิชาก็จะมีทุนให้

เทรนเกี่ยวกับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์


เรื่อง Hot Hit ตอนนี้ก็ Mobile Application พวกนี้กำลังมา สามารถสร้างรายได้ได้, Social Network, Cloud Computing

ต้องเขียนโปรแกรมเป็นก่อนเข้ามาเรียน?


ถ้ารู้มาก่อนก็ได้เปรียบ ทำให้ไม่ต้องมาเหนื่อยกับการเรียนวิชาตัวแรก แต่เมื่อผ่านตัวแรกไปแล้ว พื้นฐานก็จะใกล้เคียงกัน ตัวที่สองตัวที่สามก็มาเรียนใหม่เหมือนกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องหัดเขียนโปรแกรมมาก่อน เพราะได้เปรียบก็แค่วิชาตัวแรก ยกเว้นกลุ่มที่เข้ามาทางโอลิมปิก เพราะเรียนมาค่อนข้างเยอะมากแล้ว

เข้ามาเรียนทางไหนได้บ้าง


มี 3 ทาง คือ

1.             เข้าค่ายคอมพิวเตอร์โอลิมปิก การแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งทางนี้อาจจะยากสุดก็ว่าได้

2.             สอบตรง เลือกภาคตั้งแต่ชั้นปีที่ 1

3.             เข้ามาในคณะวิศวกรรมศาสตร์ทั่วไปก่อน จากนั้นก็เลือกภาคตอนปี 2

ซึ่งในกรณีที่ 1 และ 2 เมื่อเข้ามาแล้ว จะย้ายออกเปลี่ยนไปเรียนสาขาอื่นไม่ได้ ดังนั้นต้องมีใจรักจริงตั้งแต่แรก

ภาคคอมเรียนยาก? Abstract?


เท่าที่เห็นนิสิตส่วนใหญ่ก็ได้เกรด A กับ B เกรด C D มีบ้างเล็กน้อย คือเด็กที่เข้ามาเหมือนเค้ารู้ตัวเองแล้วระดับนึง จากปี 1 ก็จะมีการเรียนวิชา JAVA ทำให้รู้เบื้งต้นว่าตัวนิสิตเหมาะกับการเขียนโปรแกรมมากน้อยแค่ไหน ถ้ารู้ว่าเหมาะ พอเข้ามาเรียนภาคคอม ก็ไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหากับวิชานอกภาคมากกว่า เช่น เคมี ฟิสิกส์ เป็นต้น เรื่องวิชาภาคไม่มีปัญหาเพราะตัวเด็กถนัดอยู่แล้ว ต่อให้สอนยากแค่ไหนก็มักทำออกมาได้ดี ส่วน Abstract มากน้อยแค่ไหน ผมว่าไม่ เราสามารถจับต้องได้ เช่น สิ่งที่เราเขียนขึ้นมาเมื่อเรากด Enter หรือใช้เม้าไปคลิก เราสามารถดูผลลัพธ์ได้ สามารถแก้ไขให้ผลลัพธ์มันดีขึ้นมากกว่าเดิมได้

โอกาสการทำงานในต่างประเทศ


แล้วแต่การแสวงหาว่าอยากจะไปมากน้อยขนาดไหน ถ้าเรียนจบแล้วยื่นใบสมัครงานในประเทศก็ได้แค่ในประเทศ ส่วนใหญ่ที่ทำงานต่างประเทศมักจะเป็นลักษณะของการเรียนจบปริญญาตรี แล้วไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วค่อยทำงานมากกว่า

จบแล้วทำงานประเภทไหนกันบ้าง


เป็น Developer (นักพัฒนาโปรแกรม), ดูแลระบบ ออกแบบ วิเคราะห์ระบบ, ดูและระบบ Network เรื่องของความปลอดภัย, แล้วก็มีส่วนมากที่มาเรียนต่อเป็นนักวิจัย เมื่อจบมาก็เป็นนักวิชาการ เช่นอยู่ Nectec ส่วนน้อยที่เปลี่ยนสายไป Finance

จบแล้วทำงานที่ไหน (ในประเทศ)


อยู่ในองค์กรขนาดใหญ่, อยู่ตาม softeware เล็กๆ (SME) แต่ก็ไม่ได้เล็กมาก รับงานระดับล้านกว่า ไม่ถึงสิบหรือร้อยล้าน, อีกกลุ่มนึงก็ทำเอง เช่นเขียน แอพพลิเคชั่นขาย เป็น Mobile ซึ่งสามารถขายได้ทั่วโลก

ชอบเล่นเกม เล่น facebook เหมาะไหม


คนเล่นเกม ถ้ามีความฝันจะทำเกม ให้มาเรียน คนเล่น facebook ใช้เพื่อคุยกับเพื่อน หรือคิดว่า โอ้นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คิดมาได้ไง? อยากคิดได้แบบนี้บ้าง ให้มาเรียน แต่ถ้าบอกว่าชอบไปดูคนนั้นคนนี้ ไปดูความเคลื่อนไหวหรือชอบเล่นเกมเอามัน อันนี้ต้องดูตัวเองดีๆ เอาง่ายๆ ถ้าเราฝันว่าจะทำเกม หรือทำ facebook หรือทำอะไรที่เจ๋งกว่า ให้เข้ามาเรียนครับ

ใครเหมาะกับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์


คนที่คิดเป็นตรรกะ ชอบวิชาเลข(ไม่ใช่เพียวเลข ไม่ใช่ขนาดวิศวกรรมไฟฟ้า) ชอบพิสูจน์ เช่น ถ้าทำแบบนี้ต้องได้แบบนี้ หรือก่อนที่จะมาส่วนสุดท้ายก็ต้องมีส่วนอื่นก่อนหน้ามาก่อน

ต่างกับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อย่างไร


วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หลักๆ ก็เรียนคล้ายกับวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่จำนวนวิชาทางด้านฮาร์ดแวร์น้อยกว่า ส่วนตลาดงานในบ้านเราสองสาขานี้ก็มีหลายอย่างที่ทับกันอยู่

เรียนอะไรบ้าง


ตอนปี 1 จะเรียนพื้นฐาน คือวิชา Java (นิสิตวิศวฯ จุฬาฯ เรียนทุกคน) พอขึ้นปีสองก็จะมีวิชาที่เป็นแพคเกจหลักขึ้นมา เช่น เรียนเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ เขียนโปรแกรมอย่างมีหลักการมากขึ้น ต่อมาก็เอาความรู้พื้นที่มีมาทำโปรแกรมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ถูกต้องมากขึ้น เมื่อเรียนถึงระดับชั้นปี 3 เทอมปลาย จะเรียนวิชาเลือกของในภาค ซึ่งก็แล้วแต่ว่านิสิตคนไหนจะเรียนอะไร เช่น การสร้างภาพอนิเมชั่น วิชาที่ว่าด้วยเนตเวิร์ค เป็นต้น

สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมคอมพิวเตอร์)

วิวัฒนาการ ของคอมพิวเตอร์มีมาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ที่ผ่านมาคอมพิวเตอร์มีบทบาทในสังคมไทยเป็นอย่างมาก ได้ขยายตัวไปในกิจการทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาล การรวมกันระหว่างสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมไฟฟ้าก่อกำเนิดแนว ทางวิทยาการใหม่เป็นวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ โดยจะต้องศึกษาถึง สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ การออกแบบระบบดิจิตอล การออกแบบวงจรรวม การออกแบบระบบทนต่อความบกพร่อง การออกแบบระบบโครงข่ายคอมพิวเตอร์ การออกแบบระบบการประมวลผลแบบกระจาย การออกแบบระบบซอฟต์แวร์อำนวยการ เป็นต้นสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว แต่นักศึกษาสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จะต้องศึกษาถึงการออกแบบและใช้งานระบบ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ควบคู่กันไป เพื่อที่จะสามารถนำวิทยาการมาประยุกต์กับวิชาชีพทางด้านนี้อย่างแท้จริง

วิศวกรรม คอมพิวเตอร์ คือสาขาวิชาที่ศึกษาทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบต่าง ๆ ออกแบบและวิเคราะห์วงจรที่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุม ออกแบบหน่วยประมวลผลกลางหรือวงจรรวมเพื่อทำงานเฉพาะด้าน ศึกษาระบบโครงข่ายคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ศึกษาและปฏิบัติจริงทางด้านระบบเครือข่ายข้อมูล อาทิการออกแบบ การสร้าง การควบคุมและการจัดการทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์บนระบบเครือข่าย

วัตถุประสงค์หลักสูตร


1. เป็นหลักสูตรปริญญาตรีที่เน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

2. เป็นหลักสูตรที่เน้นถึงการนำวิทยาการไปใช้จริง ในอุตสาหกรรมภายในประเทศไทย

3. เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตราฐานสากลด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์

4. เพื่อผลิตบัณฑิตสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงาน เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์และสามารถออกแบบระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานได้

5. เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความพร้อมทางวิชาการ ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก ภายในประเทศและต่างประเทศ

6. เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ทางด้านวิชาชีพ และมีจริยธรรมในการทำงานและคุณธรรมในการดำรงชีวิต

แนวทางประกอบอาชีพ


1. อาชีพด้านราชการ ตัวอย่างเช่น นักวิชาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

2. อาชีพด้านรัฐวิสาหกิจ ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์และออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ดูแลระบบเครือข่าย วิศวกรที่ปรึกษา เป็นต้น

3. อาชีพด้านบริษัทเอกชน ตัวอย่างเช่น นักโปรแกรม ผู้จัดการโครงการคอมพิวเตอร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ ผู้จัดการซอฟต์แวร์ เป็นต้น

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา


  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือเทียบเท่า หรืออนุปริญญา
  • ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ของสำนักคณะกรรมการการอุดมศึกษาและ/หรือเป็นไปตามข้อบังคับ ประกาศเกี่ยวกับการคัดเลือกนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิต
  • ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกไล่ออกจากสถาบันอุดมศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางวินัย
  • ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
  • ไม่เคยต้องโทษจำคุก เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดอันเป็นลหุโทษ

ระบบการศึกษา


ใช้ระบบการศึกษาแบบทวิภาค โดย 1 ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ โดยที่ 1 ภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และอาจมีภาคฤดูร้อนอีก 1 ภาคการศึกษาก็ได้ ซึ่งมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 สัปดาห์

การสำเร็จการศึกษา


  • สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน 6 ภาคการศึกษาปกติ
  • เรียนครบตามจำนวนหน่วยกิตที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
  • ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 และระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาเฉพาะไม่ต่ำกว่า 2.00 (จากระดับสูงสุดที่ 4.00)

ทุนการศึกษา


  • ทุนโครงการสู่ วศ.บ. จำนวน 2 ทุน/ปี
  • ทุนดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ จำนวน 2 ทุน/ปี
  • ทุนประสิทธิ์-คุณหญิงพัฒนา จำนวน 6 ทุน/ปี

 

 


ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิศกรคอมพิวเตอร์

1.    วิศวะกรคอมพิวเตอร์นะครับ
มีน้องๆหลายคนถามผ่านมาเยอะมากๆ ว่าพี่ครับๆวิศวะคอมกับ วิทยาศาสตร์คอมเนี๊ยะมันต่างกันยังไงครับ ผมก็ต้องตอบน้องๆไปอยู่หลายรอบเหมือนกัน หลายคนพอได้ยินชื่อคณะสองชื่อที่กล่าวมา คือวิศวะคอมพิวเตอร์กับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์นั่นแหละ แล้วมักจะเข้าใจว่าเอ๊ะ มันเรียนเหมือนกันใช่มั๊ย ไม่ต่างกันหรอ อะไรประมาณนั้น ก็เลยขอตอบตรงนี้เลยละกันนะครับว่า วิศวะคอมพิวเตอร์กับวิทยาศาสตร์คอมพิวเจอร์นั้นมันมีข้อแตกต่างกันอยู่ ถ้าจะดูตามความหมายแล้ว วิศวะนั้นหมายความว่าผู้สร้าง สัญลักษณ์คือ พระวิษณุ เพราะฉะนั้นวิศวะคอมพิวเตอร์จึงมักจะเน้นการสร้าง มากกว่านั่นเองครับ สร้างในที่นี้ก็คือสร้างอุปกรณ์ สร้างระบบ แอปพลิเคชัน เครือข่าย ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ล้วนถูกออกแบบมาโดย วิศวะคอมพิวเตอร์นั่นเอง ส่วนวิทยาศาสตร์คอม หรือหลายคนมักเรียกผิดว่า วิทยาการคอมนั่นแหละ จะเน้นไปทางศึกษาการทำงานเสียส่วนใหญ่ และเรียนเน้นไปทางซอฟต์แวร์มากกว่า ดังนั้นคนที่เรียนวิทยาศาสตร์คอมจะเก่งในการ ออกแบบซอฟต์แวร์ เพราะจะเข้าใจความต้องการของผู้ใช้มากกว่า ว่าผู้ใช้นั้นต้องการใช้โปรแกรมอะไร ในรูปแบบไหน ประมาณนั้น ดังนั้นก็คงจะหายสงสัยกันขึ้นมาบ้างแล้วนะครับว่า มันต่างกันยังไง นั่นแหละที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งหลายก็คือข้อแตกต่าง อาจจะอธิบายไม่ครอบคลุมในส่วนที่คุณต้องการรู้ แต่ก็คงช่วยได้บ้างใช่ไหมครับ ดังนั้นคนที่ชอบควบคุมคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน ออกแบบระบบเครือข่าย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือคิดค้นอุปกรณ์อะไรใหม่ๆ และชอบเขียนโปรแกรมที่ใช้ควบคุมอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทำงานได้ดั่งใจเรา หรือจะเป็นซอฟต์แวร์ก็ยังสามารถทำได้ ง่ายๆก็คือวิศวะสามารถเป็นผู้ควบคุมได้นั่นเอง ใครที่ชอบอะไรท้าทายๆสลับซับซ้อนประมาณนี้ก็เลือกเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ได้เลย ส่วนใครที่ชอบเน้นไปทางการสร้างเกมส์ สร้างโปรแกรม เอนิเมชั่น เอาง่ายๆคือประเภทซอฟต์แวร์นั่นแหละ ก็ลองไปศึกษา วิทยาศาสตร์คอมดู และที่มหาวิทยาลัยเค๊าก็มีเปิดสอนพวกเอนิเมชันกราฟฟิกแล้วนะรู้ศึกจะเป็นคณะศิลปกรรมนี่แหละ ลองๆ ไปศึกษาเพิ่มเติมดู จะได้เลือกคณะที่เราชอบที่เราถนัดจริงๆ จะได้มีต้องมานั่งเสียใจภายหลัง หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์กับน้องๆ ทุกคน หรือใครก็แล้วแต่ที่มีคำถามว่าวิศวะคอมฯกับวิทยาศาสตร์คอม มันต่างกันยังไง ผมเองก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จดั่งที่ใจใฝ่ฝันเอาไว้นะครับ

2.    ผมเองจะขอพูดในฐานะที่เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์คนนึง

ตอนเรียน เรียนเหมือนวิศวะ สอบเข้ายาก จบออกไป ยากกว่า เพราะเราๆ ต้องทำโปรเจ็ค ก็มีนะเพื่อนๆ ที่เขียนโปรแกรมนู้น โปรแกรมนี่ แต่ มันรู้สึกว่าไม่ใช่ โปรเจ็คเด็กวิศวะคอมมันต้อง หุ่นยนต์ ,แขนกล, วิเคราะห์ network, VDHL วงจรขนาดใหญ่ ,ASIC ออกแบบวงจรในชิพ อะไรประมาณนั้น ส่วน โปรแกรม database ออกแบบ website ให้ พวก it กะ วิยาคอม ทำไปเถอะ
แต่ตอนทำงานนี่สิครับน้อง ถ้าไม่เลือกงานที่ตรงสายวิศวกร บางคนรองานที่ตรงสายไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจบังคับ พ่อแม่บีบให้หางานไว หรือปัจจัยต่างๆ ทำให้ได้งานที่ไม่ใช่แนววิศวกร งานเลยไปทับกันกับ it และ วิทยาคอม ทำให้หางานได้ลำบาก แต่ถ้าไป บริษัทที่เค้ารู้และเข้าใจในวิศวคอมจิงๆ ว่าเรียนอะไรมาบ้าง ทำอะไรได้บ้าง
แน่นอนครับ เงินดีแน่ๆ
ตัวอย่างนะครับ ของผมเองเลยละกัน
เคยไปสมัครงานกะ บ.microchip เค้ารับสมัคร วิศวกรออกแบบ อะไรประมาณนั้น
ต้อง เชี่ยวชาญ ภาษา C C++ อะ เราก็พอตัวอยู่
ต้องใช้โปรแกรม VDHL ออกแบบวงจรในชิพ ก็เรียนมาเลย เกรดดีด้วย
รู้จักพื้นฐานวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เราก็เรียน ตั้งแต่ปวช A ตลอด

แต่ในใบประกาศ เค้ารับแต่ วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ เราพาตัวเองไปเสนอเค้าก็ไม่สนใจ -_-" น่าน้อยใจชะมัด เป็นงานที่เรารักซะด้วยแต่ดันไม่ได้ทำ

ประมาณนั้นครับ

ส่วนใบ กว. ใครบอกว่าเป็นวิศวกรคอมแล้วมี กว ไม่ได้ครับ มีได้นะครับ แต่ต้องเป็นแบบ วิสามัญ และ ภาคีพิเศษ พร้อมทั้งนำผลงานที่เกี่ยวข้อง 2 ปีไปยื่นแก่สภา พร้อมกับ ใบรับรองจากวิศวกรควบคุม 1 ท่าน
ถ้างานที่เราทำนั้นควบคุมระบบหรือเกี่ยวข้องกับระบบ high volt คือทำให้คนตายได้
สภาวิศวกรก็จะออกใบ กว.ให้ครับ แต่ให้เราควบคุมได้เฉพาะเรื่อง ที่เรายื่นไปเท่านั้นครับ

วิศวกรคอมรุ่นหลังๆ เทรนค่อนข้างจะแยกออกเป็น สาม สี่ สายนะเท่าที่ผมดู

Network+system Engineer
Robotic+Automation Engineer
งาน Programming ต่างๆ
อื่นๆ ปลีกย่อย database support

ผมบอกเท่าที่ผมรู้และที่ผมสัมผัสหล่ะครับ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่จะศึกษาในสาขาเดียวกับผม Computer Engineer

3.    วิศวะคอมพิวเตอร์ เป็นสาขาที่คนเรียนค่อนข้างเยอะ
อาจจะมีงานรองรับน้อยกว่าปริมาณของบัณฑิต ที่จบออกมา
ทั้งนี้ทั้งนั้น สาขานี้ก็สามารถประกอบธุรกิจส่วนตัวได้อย่างแน่นอน
เช่น ร้านซ่อมคอมรับจ้างทำเว็บ หรือว่ารับจ้างเขียนโปรแกรม
หรือที่จะเข้าทำงานจำพวกดูแลเซิฟเวอร์ หรือการเขียนdebug ต่างๆ
แต่ถ้าชอบแนะนำให้เรียนไปเลยครับ
แต่อย่าคิดว่า ชอบเล่นเกมส์ แล้วจะเรียนสาขานี้
เพราะสาขานี้ต้องเรียนคณิต การจำนวนต่างๆ
นั่นคือสาขานี้ ต่องใช้ความเป็นตรรกะ ค่อนข้างเยอะ
ถ้าคุณไม่ชอบคณิต ฟิสิกส์ วัสดุศาสตร์ อย่าเรียนเลยครับ

4.    วิศวะคอมไม่ใช่พกวซ่อมคอมนะ เป็นเกี่ยวกับโปรแกรมประยุกต์
แต่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ เป็นสาขาที่ยาก ที่สุด ในวิศวะ
และเงินเดือนก็สูง เป็นสาขาที่มีอาชีพไม่ตายตัว
เพราะไม่ใช่สาขาที่รับงานเฉพาะ อย่าเช่น แพทย์ก็ รับสาขาที่เป็นแพทย์
แต่ถ้าวิศวะคอมมันขึ้นอยู่กับงานที่เราจะสมัคร

5.    งานที่เหมาะสมกับวิศวะคอมที่สุดคืองานพวก สถาปัตยกรรมคอม พวกซ่อมคอม เกี่ยวกับเซอร์เวอร์และระบบเนตเวิค หรือ LAN (เป็นนายช่างคุมลูกน้อง) งานเขียนโปรแกรมระบบ เขียนโปรแกรมเนตเวิค โปรแกรมติดต่อกับอุปกรณ์หรือโรบอท ซึ่งงานพวกนี้ในตลาดมีค่อนข้างน้อย เทียบกับงานเขียนเวบ ซึ่งเป็นงานที่เหมาะสมกับวิทยาการคอมมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามเด็กวิศวะจะถือว่าเคี่ยวกว่า เก่งกว่าเด็กวิทยา เรพาะฉะนั้นวิศวะจึงมาแย่งงานเด็กวิทยาการทำซะส่วนนึงครับ - - และก็มีเด็กวิทยาการคอมส่วนนึงไปแย่งงานเด็ก business com เนื่องจากเรื่อง ตรรกะหรือเรื่อง business logic เด็กวิทยาการก็คอนข้างดีกว่า ก็ เหมือนกับปลาใหญ่ไล่กินปลาเล็กนั่นเเหละครับ

ส่วนเรื่องเงินเดือน เด็กวิศวะเงินเดือนจะสูงกว่าวิทยาการคอม แม้จะทำงานในตำแหน่งเดียวกันครับ เงินเดือนจะสูงกว่าประมาณ 5-15% เช่น หมื่นห้า VS หมื่น 7 เป็นต้นครับ

6.    วิทยาการคอม กำลังแย้งงาน วิศวะคอม อยู่นะ เพราะวิทยาคอมมีความรู้ทางแขนงวิทยาศาสตร์ซึ่งถือว่าสำคัญมากๆดังนั้นหลายบริษัทเลือกที่จะรับวิทยาการคอมมากกว่าเพราะถือว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว วิศวะคอม+นักวิทยาศาสตร์ ส่วนเรื่องเงินเดือนหายห่วงครับเพราะที่วิศวะสูงกว่าเนืองจากมีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งตอนนี้คณะวิทยาศาสตร์ก็มีใบประกอบวิชาชพวิทยาศาสตร์แล้วครับ แล้ววิศวะกรรมศาสตร์ถือว่าเป็นแขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์ครับ

 

 

วิศวะคอมพิวเตอร์ กับ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่งต่างกันอย่างไร

วิศวะคอมพิวเตอร์ ตามความหมายแล้ว วิศวะหมายความว่าผู้สร้าง สัญลักษณ์คือ พระวิษณุ เพราะฉะนั้น วิศวะคอมพิวเตอร์ จึงมักจะเน้นการสร้าง สร้างในที่นี้ก็คือสร้าง อุปกรณ์ สร้างระบบ แอปพลิเคชัน เครือข่าย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ล้วนถูกออกแบบมาโดย วิศวะคอมพิวเตอร์นั่นเอง
คนที่ชอบควบคุมคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน ออกแบบระบบเครือข่าย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือคิดค้นอุปกรณ์อะไรใหม่ๆ และชอบเขียนโปรแกรมที่ใช้ควบคุมอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทำงานได้ดั่งใจเรา หรือจะเป็นซอฟต์แวร์ก็ยังสามารถทำได้ ง่ายๆก็คือวิศวะสามารถเป็นผู้ควบคุมได้นั่นเอง ใครที่ชอบอะไรท้าทายๆสลับซับซ้อนประมาณนี้ก็เลือกเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ได้เลย


วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หรือหลายคนเรียกผิดว่า วิทยาการคอมฯ จะเน้นไปทางศึกษาการทำงานเสียส่วนใหญ่ และเรียนเน้นไปทางซอฟต์แวร์มากกว่า ดังนั้นคนที่เรียนวิทยาศาสตร์คอมจะเก่งในการ ออกแบบซอฟต์แวร์ เพราะจะเข้าใจความต้องการของผู้ใช้มากกว่า ว่าผู้ใช้นั้นต้องการใช้โปรแกรมอะไร ในรูปแบบไหน ประมาณนั้น
ส่วนใครที่ชอบเน้นไปทางการสร้างเกมส์ สร้างโปรแกรม เอนิเมชั่น เอาง่ายๆคือประเภทซอฟต์แวร์นั่นแหละ ก็ลองไปศึกษา วิทยาศาสตร์คอมดู และที่มหาวิทยาลัยก็มีเปิดสอนพวกเอนิเมชันกราฟฟิกแล้วนะรู้ศึกจะเป็นคณะศิลปกรรมนี่แหละ ลองๆ ไปศึกษาเพิ่มเติมดู จะได้เลือกคณะที่เราชอบที่เราถนัดจริงๆ จะได้มีต้องมานั่งเสียใจภายหลัง หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์กับน้องๆ ทุกคน หรือใครก็แล้วแต่ที่มีคำถามว่าวิศวะคอมฯกับวิทยาศาสตร์คอม มันต่างกันยังไง ผมเองก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จดั่งที่ใจใฝ่ฝันเอาไว้นะครับ

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์


วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (computer engineering) เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและสร้างเครื่องหรือระบบคอมพิวเตอร์ และ ระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ ศาสตร์นี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การสื่อสาร และความเกี่ยวเนื่องระหว่างเรื่องทั้งสาม หลักสูตรการเรียนมุ่งเน้นทางด้าน ทฤษฎี กฎ และ การฝึกฝนปฏิบัติของทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และ คณิตศาสตร์ รวมถึงการประยุกต์เข้ากับปัญหาทางด้านการออกแบบคอมพิวเตอร์ และ อุปกรณ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์

วิศวกรคอมพิวเตอร์จะต้องเคยศึกษาการออกแบบระบบฮาร์ดแวร์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงระบบการสื่อสาร องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์จะเรียนการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมุ่งเน้นเกี่ยวกับซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ดิจิทัล และ การสร้างส่วนต่อประสานระหว่างผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ และ ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ วิศวกรคอมพิวเตอร์อาจจะมีความรู้เน้นทางด้านฮารด์แวร์มากกว่าซอฟต์แวร์ หรือ มีความรู้พอ ๆ กันทั้งสองด้านก็ได้ แต่สิ่งที่โดดเด่นคือวิศวกรคอมพิวเตอร์จะมีความรู้ทางด้านการวิศวกรรมที่ดีด้วย

ประวัติวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในสหรัฐอเมริกา


ประวัติวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ในอเมริกาเริ่มจากแต่เดิมเป็นสาขาวิชาเฉพาะทางในวิศวกรรมไฟฟ้า ที่มุ่งศึกษาเกี่ยวกับการวิศวกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ แต่ต่อมาช่วงหลังปี ค.ศ. 1990 จึงมีการเพิ่มเติมเนื้อหาการศึกษาทางด้านซอฟต์แวร์ หรืออาจมองได้ว่าเกิดจากการรวมกันของวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์ ถ้าพิจารณาจากสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแล้ว วิศวกรคอมพิวเตอร์คือวิศวกรไฟฟ้าที่มุ่งเน้นไปที่ระบบฮาร์ดแวร์เชิงดิจิทัล และไม่เน้นทางด้านความถี่วิทยุ หรือไฟฟ้ากำลัง และถ้ามองจากทางวิทยาการคอมพิวเตอร์แล้ว วิศวกรคอมพิวเตอร์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อประสานระหว่างซอฟต์แวร์และ ระบบฮาร์ดแวร์ ในยุคหลังมีทฤษฏีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบเครืองข่าย การรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ หรือ การรู้จำด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในอเมริกาส่วนมาก เริ่มก่อตั้งขึ้นภายใต้หรือควบคู่กับภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 บางมหาวิทยาลัยเลือกที่จะผนวกสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมซอฟต์แวร์เข้ากับภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ในขณะที่บางที่เช่น สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เลือกที่จะรวมภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าเข้ากับภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์แทน

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย


ในประเทศไทย มีหลักสูตรทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ขึ้นครั้งแรก ในภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2518 เพื่อจัดดำเนินการด้านการเรียน และการสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อันจะช่วยให้การสอนของอาจารย์ และการวิจัยของข้าราชการของมหาวิทยาลัย มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตลอดจนสร้างโปรแกรม ทำโครงการพัฒนาระบบการใช้งานภาษาไทย และสร้างระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ รวมถึงจัดอบรมวิชาการด้านคอมพิวเตอร์ในระดับทั่วไป โดยมีรากฐานจาก"หน่วยคอมพิวเตอร์ไซแอนส์" (Computer Science หรือหลักสูตรวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ใน ปัจจุบัน) ซึ่งทำการสอนวิชาด้านคอมพิวเตอร์ให้แก่นิสิตปริญญาตรีในคณะต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้เปิดหลักสูตรการศึกษาชั้นประกาศนียบัตรทางด้านคอมพิวเตอร์ไซ แอนส์ (ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ กพ. ให้การรับรอง) ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ซึ่งก็มีผู้สนใจเข้าเรียนจนจบ และได้ประกาศนียบัตรไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมา เนื่องจากสังกัดอยู่กับบัณฑิตวิทยาลัย หน่วยคอมพิวเตอร์ไซแอนส์จึงได้เปิดหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ศาสตร์ (วท.ม) ขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยรับนิสิตปริญญาโทจากผู้ที่จบปริญญาตรีสาขาวิชาต่าง ๆ เกือบทุกสาขาวิชา และยังพิจารณาที่จะช่วยเหลือการศึกษาด้านนี้แก่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ อีกด้วย

คุณสมบัตรการสมัคร

คุณสมบัติผู้สมัคร

 

มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความประสงค์จะรับนักเรียนมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการ และพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิ สอวน.) เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ตามโครงการพัฒนาและส่งเสริมนักเรียนโครงการโอลิมปิกวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีการศึกษา 2555 ดังนี้

1.
คุณสมบัติของผู้สมัคร
1.1
มีสัญชาติไทย
1.2
มีสุขภาพอนามัยแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อหรือโรคร้ายแรง และไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
1.3
เป็นผู้สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
1.4
เป็นผู้ที่ไม่เคยตกออกจากสถาบันระดับอุดมศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชน
1.5
เป็นผู้เข้าร่วมและผ่านการคัดเลือกตามกิจกรรมในข้อ 2 ขณะที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
1.6
มีคะแนนเฉลี่ยสะสมระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่ต่ำกว่า 3.50
1.7
มีคะแนนเฉลี่ยรายวิชาคณิตศาสตร์และวิชาฟิสิกส์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่ต่ำกว่า 3.50

2.
นักเรียนที่มีสิทธิ์สมัครเข้ารับการคัดเลือก
2.1 เป็นนักเรียนที่ผ่านการอบรมคัดเลือกครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (สสวท.)กระทรวงศึกษาธิการ หรือ
2.2
เป็นนักเรียนที่ผ่านการอบรมค่าย 2 จากศูนย์มหาวิทยาลัยภูมิภาค จำนวน 15 ศูนย์ หรือศูนย์กรุงเทพฯ จำนวน 6 ศูนย์
ภายใต้โครงการมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์
ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.)
2.3 คุณสมบัติอื่นๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละสาขาวิชา ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดังนี้
2.3.1 สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาเคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
2.3.2
สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาเคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
2.3.3 สาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ หรือคอมพิวเตอร์
2.3.4 สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
2.3.5 สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
2.3.6 สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
2.3.7 สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
2.3.8 สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ รับนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมในสาขาใดสาขาหนึ่ง ดังต่อไปนี้คือ
สาขาวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรือดาราศาสตร์
 
จบวิศวะคอมพิวเตอร์ทำงานบริษัท หรือทำโรงงานดีกว่าครับ ความคิดเห็นของผู้ที่จบ วิศวรกรรม

1. คือส่วนตัวแล้วผมเองเขียนโปรแกรมได้แค่งูๆ ปลาๆ เขียนไม่ค่อยเก่ง เลยอยากสอบถามว่าเราควรไปทางโรงงาน หรือพวกบริษัทดีกว่า ที่มีโอกาสโต และเงินเดือนแรกเข้าสำหรับเด็กจบใหม่ มีไม่ประสบการณ์อยู่ประมาณเท่าไหร่ครับอ. วิชัย ท่านแจ้งว่า คำถามเกี่ยวข้องกับผม คือวิศวะคอมพิวเตอร์อยากให้ผมตอบเองเลย

1. สำหรับทักษะการเขียนโปรแกรม ที่เรียกว่า งูๆปลาๆ เนี่ยครับ คือ ผมต้องบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเก่งที่สุดหรอกครับ แต่ว่าเราต้องรู้หลักการในด้านของการควบคุม การตรวจรายละเอียด การเช็คการทำงานได้ ซึ่งวิศวะคอมที่เราสามารถทำได้ตรงสายงาน และโดดเด่นได้คือ องค์รวมของระบบคอมพิวเตอร์

เช่น ถ้าเรารู้วิธีการที่จะทดสอบว่า ระบบนี้รับลูกค้าใช้งานพร้อมกันได้กี่คน การเขียนโปรแกรมวนลูปแบบนี้จะทำให้สิ้นเปลืองเวลาประมวลผล ระบบฐานข้อมูลต้องมีการแบ็คอัพ

ถ้าน้องเข้าใจหลักการพวกนี้ได้ ก็จะชดเชยทักษะการเขียนโปรแกรมไปได้ครับ (เพราะวิศวะคอมพิวเตอร์หลายคนที่จบไป ก็ไม่ได้ต้องเขียนโปรแกรมทุกคนนะครับ)

2. การทำงานในออฟฟิศ หรือ โรงงาน? ตรงนี้ ผมกลับมองว่า เรามองเป็น ออฟฟิศ หรือ โรงงานไม่ได้ครับ ต้องเป็นงานสายตรงหรืองานสายอ้อมๆ มากกว่า

งานสายตรง คือ งานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์โดยตรง หรือมีเทคโนโลยีเป็นส่วนประกอบหลักของสินค้าขาย เช่น บริษัท ISP, ซอฟท์แวร์เฮ้าส์, ทำเว็บ, ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี, บริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์, บริษัทผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

บริษัทเหล่านี้จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่ตลอด (ซึ่งงานบางส่วนก็เป็นโรงงาน) แต่จะทำให้คุณอยู่ในกรอบของการทำงานเชิงรุก เพราะคุณคือหน่วยหลักของบริษัท งานจะเครียด เงินเดือนดี และมีโอกาสเรียนรู้เยอะ

งานสายอ้อม คือ งานที่เป็นแนวอ้อม ระบบคอมพิวเตอร์ที่เราเข้าไปทำงาน เป็นเพียงส่วนงานสนับสนุนเท่านั้น เช่น บริษัทผลิตภัณฑ์เคมี ที่อาจจะมีระบบควบคุมการผสมสารด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

บริษัทเหล่านี้ คุณไม่ต้องทำงานเชิงรุกมาก จะเป็นแนวที่อยู่ดูแลเรียนรู้ มีปัญหาต้องเข้าไปแก้ไข งานอาจจะไม่เครียด โอกาสการเรียนรู้ไม่เยอะ แต่โอกาสที่คุณเป็นบุคคลสำคัญในบริษัทสูง เพราะคุณคือหนึ่งในไม่กี่คนของบริษัทที่เรียนรู้เทคโนโลยีมามากกว่าคนอื่นๆ

ดังนั้น ขึ้นอยู่กับนิสัยของคุณครับ ว่าชอบแบบไหน

3. เงินเดือนเริ่มต้น ส่วนใหญ่ สายวิศวะคอมไม่มีประสบการณ์ จะเริ่มต้นอยู่ที่ 17 - 22K ครับ จะมากจะน้อยก็ range นี้ขึ้นอยู่กับ งาน และสถาบันที่เรียนครับ ถ้างานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ งานที่ต้องอยู่ต่างจังหวัด อาจจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก

แล้วก็ต้องยอมรับว่า นักศึกษา/นิสิต สถาบันขึ้นชื่อจะมีโอกาสเรียกค่าตัวเริ่มต้นได้สูงกว่า แต่ก็ใช่ว่า สถาบันรองๆจะไม่มีโอกาสเติบโตนะครับ (อย่าน้อยใจไป) ถ้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ดีกว่า ในช่วง 2-3 ปีต่อมา ก็เงินเดือนแซงกันได้เช่นกัน

 

2. ผมจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม.รัฐบาล ในกรุงเทพ แห่งหนึ่งมา
ตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 พอใครรู้ว่าเรียน วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
ก็เริ่มมีเรื่องเข้าใจผิดจากคนรอบข้างบ่อยๆ เช่น

"ลงวินโดว์ให้หน่อยสิ ถือว่าฝึกฝีมือก่อนสอบ"
"คอมเปิดไม่ติดอ่ะ ดูให้หน่อยว่าเป็นอะไร"
"เฮ้ย กุลงเกมนี้ไม่ได้ว่ะ มาดูให้หน่อยดิ"


หรือแม้กระทั่ง
"อยู่ๆ ไมโครเวฟมันไปไม่ติดอ่ะไม่รู้เป็นไร ดูให้หน่อย"

อันที่เจ็บสุดๆ คือ
"แอร์ไม่เย็นอีกแล้ว ดูให้หน่อยว่าเป็นที่น้ำยาแอร์หรือคอมเสีย"
>> พี่ครับ นั่นมันคอมเพรสเซอร์ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ แล้วผมก็ไม่ใช่ช่างแอร์ แต่ผมไม่เล็กนะครับ

เข้าเรื่องนะครับ
เอาง่ายๆนะ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มาจาก วิศวกรรม+คอมพิวเตอร์
จะเป็นส่วนผสมของ วิทยาการคอมพิวเตอร์ + วิศวกรรมไฟฟ้า

แยกง่ายๆ ดังนี้
วิศวกรรม คือ การสร้างหรือทำอะไรสักอย่างหนึ่งโดยมีระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน มีขั้นตอนวิธีที่แน่นอน สามารถตรวจสอบได้
คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ที่สามารถรับข้อมูล หรือ ชุดคำสั่ง แล้วนำไปประมวลผลเพื่อใช้ในการคำนวณที่ซับซ้อน และ แก้ปัญหาต่างๆ โดยสามารถที่จะแสดงผลลัพธ์ออกมาได้ และ สามารถบันทึกผลลัพธ์นั้นได้

เมื่อเอามารวมกัน จะได้ว่า การสร้างชุดคำสั่ง การสร้างข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การแก้ปัญหาต่างๆ โดยการเขียนคำสั่งให้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาให้ รวมไปถึงการสร้างวงจร อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่มีความสำคัญกับการทำงานของคอมพิวเตอร์

ซึ่งผู้ที่เรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จะเรียนเกี่ยวกับระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ แต่ละส่วนทำงานได้อย่างไร ข้อมูลจะเก็บตรงไหนอย่างไร ทั้งในเชิงวัตถุ (เห็นว่าข้อมูลเป็นอย่างไร) และในเชิงกายภาพ (รู้ว่าไฟฟ้าวิ่งในคอมพิวเตอร์อย่างไร) จะเห็นว่าเราเรียนลึกกว่าการซ่อมคอมพิวเตอร์ครับ แต่ที่วิศวกรคอมพิวเตอร์สามารถซ่อมคอมพิวเตอร์ได้ ก็เกิดจากการศึกษาเพิ่มเติมจากตัวเค้าเองครับ บางคนซ่อมเป็นก่อนมาเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จะแบ่งออกเป็น 3 สาย หลักๆ ครับ

1.สาย
Hardware -> สายนี้จะเรียนเกี่ยวกับการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ เรียนรู้ที่จะสร้างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขึ้นมา ซึ่งทางสายนี้จะมีความใกล้ชิดกับวิศวกรรมไฟฟ้าค่อนข้างมาก โดยจะเรียนไปถึงวงจรต่างๆ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ฯลฯ โดยจะนำความรู้ที่เรียนไปทั้งหมด มาทำการสร้างอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ชิ้นนึงที่สามารถทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ อนึ่งการเรียนทางด้านสาย Hardware ก็จะมีการเขียนโปรแกรมด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุม Hardware เช่นภาษา Assembly


2.สาย
Software -> สายนี้จะเรียนเน้นไปทางด้านการเขียนโปรแกรม ทั้งโปรแกรมระบบ และ โปรแกรมประยุกต์ โดยจะเรียนตั้งแต่พื้นฐานของการแก้ไขปัญหาอย่างมีวิธีการ (Algorithm อัลกอริธึม) ตลอดไปถึงการเรียนรู้ว่า คอมพิวเตอร์มีการทำงานอย่างไร เมื่อเขียนโปรแกรมลงไป โปรแกรมจะนำค่าที่ได้ไปเก็บไว้ที่ไหน แล้วเราจะเรียกค่านั้นมาใช้ได้อย่างไร เรามีขั้นตอนวิธีในการรับงานเขียนโปแกรม วิเคราะห์ระบบอย่างไร (Software Engineering) โดยเราอาจจะไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมก็ได้ เราเพียงแค่วิเคราะห์ระบบว่าจะให้ทำงานไปในทิศทางใด อย่างไร แก้ปัญหาใด และนำแนวคิดเหล่านั้นไปโยนให้โปรแกรมเมอร์เขียนก็ได้ครับ

3.สาย
Network -> สายนี้ดูจะเป็นสายที่มีผู้เรียนค่อนข้างมาก เป็นสายที่เรียนเกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเนื้อหาจะเริ่มตั้งแต่สัญญาณที่ส่งผ่านตัวกลาง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นวิทยุ จนนำพื้นฐานที่เรียนมาทำการสร้างเป็นระบบเครือข่าย LAN, MAN หรือ WAN นอกจากนั้นบรรดา Hacker
ทั้งหลายโดยส่วนมากก็จะอยู่สายนี้ครับ เราจะเรียนเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การควบคุมระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้เป็นแม่ข่าย คุณสมบัติของสายส่งข้อมูล หรือ ตัวกลางแบบไร้สาย

จะเห็นได้ว่า วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เรียนค่อนข้างครอบคลุมเนื้อหาสาระของ วิทยาการคอมพิวเตอร์ (
Computer Science), MIS(Management Information System) และสาขาอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์ (อาจจะมีไฟฟ้านิดหน่อย) ดังนั้นเมื่อจบมาแล้ว สายงานที่เป็นไปได้จะมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนาระบบ โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบ ผู้ดูแลระบบเครือข่าย วิศวกรระบบ ผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์ ฯลฯ


 

 

วิศวกรรมคอมพิวเตอร์


วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (computer engineering) เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและสร้างเครื่องหรือระบบคอมพิวเตอร์ และ ระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ ศาสตร์นี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การสื่อสาร และความเกี่ยวเนื่องระหว่างเรื่องทั้งสาม หลักสูตรการเรียนมุ่งเน้นทางด้าน ทฤษฎี กฎ และ การฝึกฝนปฏิบัติของทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และ คณิตศาสตร์ รวมถึงการประยุกต์เข้ากับปัญหาทางด้านการออกแบบคอมพิวเตอร์ และ อุปกรณ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์

วิศวกรคอมพิวเตอร์จะต้องเคยศึกษาการออกแบบระบบฮาร์ดแวร์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงระบบการสื่อสาร องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์จะเรียนการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมุ่งเน้นเกี่ยวกับซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ดิจิทัล และ การสร้างส่วนต่อประสานระหว่างผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ และ ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ วิศวกรคอมพิวเตอร์อาจจะมีความรู้เน้นทางด้านฮารด์แวร์มากกว่าซอฟต์แวร์ หรือ มีความรู้พอ ๆ กันทั้งสองด้านก็ได้ แต่สิ่งที่โดดเด่นคือวิศวกรคอมพิวเตอร์จะมีความรู้ทางด้านการวิศวกรรมที่ดีด้วย

ปัจจุบันสาขาวิชาที่สำคัญในด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์คือ ระบบฝังตัว การพัฒนาอุปกรณ์ที่มีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ฝังตัวภายใน เช่น อุปกรณ์สื่อสารอย่าง โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นวิทยุระบบดิจิทัล เครื่องบันทึกวิดีทัศน์ระบบดิจิทัล ระบบเตือนภัย เครื่องถ่ายรังสีเอ็กซ์ และ เครื่องมือผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องการการผนวกรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ฝังตัวหรือของอื่น ๆ ที่เป็นผลจากการวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน

เนื้อหา


[แก้] ประวัติวิศวกรรมคอมพิวเตอร์


ประวัติวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เริ่มจากแต่เดิมเป็นสาขาวิชาเฉพาะทางในวิศวกรรมไฟฟ้า ที่มุ่งศึกษาเกี่ยวกับการวิศวกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ แต่ต่อมาช่วงหลังปี ค.ศ. 1990 จึงมีการเพิ่มเติมเนื้อหาการศึกษาทางด้านซอฟต์แวร์ หรืออาจมองได้ว่าเกิดจากการรวมกันของวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์ ถ้าพิจารณาจากสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแล้ว วิศวกรคอมพิวเตอร์คือวิศวกรไฟฟ้าที่มุ่งเน้นไปที่ระบบฮาร์ดแวร์เชิงดิจิทัล และไม่เน้นทางด้านความถี่วิทยุ หรือไฟฟ้ากำลัง และถ้ามองจากทางวิทยาการคอมพิวเตอร์แล้ว วิศวกรคอมพิวเตอร์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อประสานระหว่างซอฟต์แวร์และระบบฮาร์ดแวร์ ในยุคหลังมีทฤษฏีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบเครืองข่าย การรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ หรือ การรู้จำด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในระดับนานาชาติส่วนมาก เริ่มก่อตั้งขึ้นภายใต้หรือควบคู่กับภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 บางมหาวิทยาลัยเลือกที่จะผนวกสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมซอฟต์แวร์เข้ากับภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ในขณะที่บางที่เช่น สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เลือกที่จะรวมภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าเข้ากับภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์แทน

[แก้] วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย


ในประเทศไทย มีหลักสูตรทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ขึ้นครั้งแรก ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2518 เพื่อจัดดำเนินการด้านการเรียน และการสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อันจะช่วยให้การสอนของอาจารย์ และการวิจัยของข้าราชการของมหาวิทยาลัย มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตลอดจนสร้างโปรแกรม ทำโครงการพัฒนาระบบการใช้งานภาษาไทย และสร้างระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ รวมถึงจัดอบรมวิชาการด้านคอมพิวเตอร์ในระดับทั่วไป โดยมีรากฐานจาก"หน่วยคอมพิวเตอร์ไซแอนส์" (Computer Science หรือหลักสูตรวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน) ซึ่งทำการสอนวิชาด้านคอมพิวเตอร์ให้แก่นิสิตปริญญาตรีในคณะต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้เปิดหลักสูตรการศึกษาชั้นประกาศนียบัตรทางด้านคอมพิวเตอร์ไซแอนส์ (ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ กพ. ให้การรับรอง) ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ซึ่งก็มีผู้สนใจเข้าเรียนจนจบ และได้ประกาศนียบัตรไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมา เนื่องจากสังกัดอยู่กับบัณฑิตวิทยาลัย หน่วยคอมพิวเตอร์ไซแอนส์จึงได้เปิดหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ศาสตร์ (วท.ม) ขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยรับนิสิตปริญญาโทจากผู้ที่จบปริญญาตรีสาขาวิชาต่าง ๆ เกือบทุกสาขาวิชา และยังพิจารณาที่จะช่วยเหลือการศึกษาด้านนี้แก่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ อีกด้วย

ปัจจุบันหลักสูตรของภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาฯ และเกษตรศาสตร์ จะเรียนทางด้านฮาร์ดแวร์ (40%) และซอฟต์แวร์ (60%) ส่วนของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จะเรียนทางด้านฮาร์ดแวร์ (50%) และซอฟต์แวร์ (50%) โดยเน้นทักษะการใช้วิศวกรรมศาสตร์ ในการสร้างคอมพิวเตอร์หรือระบบที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยวิศวกรคอมพิวเตอร์จะมีความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เนื้อหาวิชาที่เรียนจะเน้นด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติน้อยกว่าทางหลักสูตรด้านวิศวกรรมศาสตร์ดั้งเดิม ซึ่งวิชาเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยวิชาพื้นฐานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ และ วิศวกรรมซอฟต์แวร์

[แก้] สถาบันที่เปิดสอนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย




















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น